รีวิวการหาบ้านและไซน์บ้านเองจากไทยไป Part 2 ค่า
รีวิวการหาบ้านและไซน์บ้านเองจากไทยไป Part 2 ค่า
ใครยังไม่ได้อ่าน part 1 ตามได้ที่นี้นะคะ
https://www.facebook.com/groups/337049706949787/permalink/991280248193393/

ได้บ้านแล้วทำยังไงต่อ?
1. เอเจ้นจะส่งเมลมาถามเราว่าคุณ confirm ที่จะเข้าอยู่ในวันที่นี้มั้ยๆ ระยะเวลาเท่านี้ๆ ถ้าเราจะเอา ก็เมลตอบกลับเจ้นว่า confirm
2. เอเจ้นจะส่งรายละเอียดห้องพัก สัญญามาให้เราดู รวมทั้งคำนวณค่าใช้จ่ายว่าเราต้องจ่ายเท่าไหร่ และให้เราจ่ายค่า bond และค่าเช่าล่วงหน้า 1 เดือน (บางที่เก็บแค่ bond ก่อนแล้วพอถึงห้องค่อยโอนค่าห้องล่วงหน้าทีหลัง) !! ระวัง !! บัญชีที่จะโอนเงินควรจะเป็นบัญชีของเอเจ้นนะคะ ดำเนินการผ่านเอเจ้นสบายใจสุด
3. โอนเงินเสร็จ พอวันที่เราจะเข้าพักหรือไปถึง ก็ไปเอากุญแจที่เอเจ้น หลังจากนั้นเราต้องไปติดต่อเรื่องน้ำ ไฟ แก๊ส อินเทอร์เน็ตเอง (ข้อนี้เราไม่ค่อยมั่นใจ เพราะเราก็ยังไม่ได้เดินทาง เดี๋ยวถึงแล้วจะมารีวิว ep.3 อีกรอบ)

ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
1. ค่า inspection ราคาประมาณ 25$-40$ ต่อครั้ง inspect ครั้งหนึ่งก็ 15 นาที ไม่เกินนี้ ราคา vary นะคะ แพงไม่ได้แปลว่าดี ถูกก็ไม่ได้แปลว่าไม่ดี แล้วแต่สะดวกเลยค่า
2. ค่า bond & deposit เดือนแรก แล้วแต่ว่าห้องที่เราเช่าราคาเท่าไหร่ สามารถคำนวณได้จากเว็บ https://www.consumer.vic.gov.au/.../rent/rent-calculator
- ราคาที่ extra เพิ่มเข้ามา เพราะว่าอย่าลืมนะคะว่าบางเดือนก็ไม่ได้มีแค่ 4 wks เว็บมันเลยคำนวณไว้ให้แล้ว ตอนแรกเราก็งงๆเหมือนกันว่าทำไมมันโดนชาจเพิ่ม
3. ค่าเฟอนิเจอร์แรกเข้า เพราะห้องส่วนใหญ่ตอนนี้ไม่มีเฟอ เตียง โต๊ะ ตู้เย็น เก้าอี้ บลาๆ ต้องซื้อเองหมด เราตัดสินใจที่จะซื้อเฟอเองเพราะว่าเราได้วีซ่ามา 3 ปี ค่ะ เป็นความโรคจิตส่วนตัวด้วยที่อยากแต่งห้องเอง 😭 ค่าใช้จ่ายมันอาจจะบานปลายแบบสุดๆในจุดนี้
ตอนนี้ห้องพักส่วนใหญ่ต้องการที่จะทำสัญญา 1 ปีขึ้นไปค่ะ ใครถือวีซ่า 6 เดือนแล้วจะไซน์บ้านเอง จุดนี้เราว่าเสียเปรียบกับคู่แข่งสุดๆ
ก่อนที่จะได้ห้องนี้มา เราใช้บริการ inspection กับพี่มุก Blue Pearl ใจดีมากกก สวย น่ารัก บริการดี ช่วยเหลือตอบคำถามเราตลอด ห้องที่ได้มานี้พี่มุกไม่ได้ไป inspect ให้ แต่ก็ยังช่วยเรา ขนาดเอเจ้นบ้านไม่ยอมตอบ พี่มุกยัง text ไปตามให้ ใครจะใช้บริการพี่มุก แนะนำมากๆค่า แต่ห้องที่ให้ไป inspect คือชวดค่ะ 😭😭 เสียดายม้ากก ส่วนห้องที่ได้มานี้ลอง apply ไปเล่นๆก่อนนอน ตื่นเช้ามาได้เลย แบบงงเวอร์
เทคนิกที่เราใช้ให้ได้บ้าน (ส่วนตั๊ววส่วนตัวแค่ของเรานะคะ ถ้าไม่ถูกใจใครอย่าด่าเราน้า เราอ่อนไหว 😢)

พูดตรงๆ แบบไม่โลกสวยเลยนะคะ ตัวแปรหลักในการได้บ้านตอนนี้คือ เงิน ค่ะ
1. เรายื่นหลักฐานการเงินที่มีการแสดงให้เห็นว่าเงินเราเข้าออก มีการใช้จ่ายอยู่ตลอดเวลา
2. ตอนเขียน cover letter เราพยายามเขียนให้เค้ารู้ถึง life style ของเราว่า เราเป็นคนมีเงินนะ (ความจริงไม่ค่อยมีหรอกค่ะ เดือนชนเดือน 🤣) เราชอบเที่ยว ออกไปทำกิจกรรม หาเวลาว่างให้ตัวเองตลอด ตรงนี้มันจะแสดงถึงการใช้เงินของเรานะคะ เพื่อให้เค้ารู้ว่า เรามีเงินมากพอที่จะจ่ายเค้าได้ในทุกๆเดือน
- เราแปะ Instagram ของเราและแฟน เหมือนเชิญชวนให้เค้าเข้ามาดูว่า เออ มาดูได้นะ เราชอบเที่ยวกันจริงๆ ไปทะเล ดำน้ำ เดินป่า ตั้งแค้ม ไม่ได้พูดลอยๆ
ห้องที่เราได้มาคือ 1 bedroom, 1 bathroom, living room & kitchen ในราคา 450$ ต่อ week
ตอนไป inspect ครั้งแรก พี่มุกแนะนำว่าถ้าอยากได้ห้องจริงๆ ให้ extra money ไปอีกสัก 20-30$ ต่ออาทิตย์ เราเลยลองเพิ่มไป 20$ เราก็ไม่ได้มาค่ะ

เพราะฉะนั้น การเพิ่มเงินก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะได้ห้องเสมอไปนะคะ เพราะห้องที่ได้มาก็ไม่ได้ add เพิ่มค่ะ (คิดว่าน้อยไป อาจจะต้อง 50$ แต่เราว่ามันแพงเกินไปสำหรับห้องเปล่าค่ะ)
ใครอยาก sign ห้องเอง ให้เตรียมเอกสารทั้งหมดให้พร้อม ที่สำคัญคือเงินค่ะ เพราะต้องเร็วแข่งกับเวลาด้วย ถ้าเราชักช้า มัวแต่ตัดสินใจ ห้องก็จะหลุดไปเป็นของคนอื่นทันที
ใครมีคำถามอะไรถามเข้ามาได้นะคะ เราอาจจะไม่ได่ตอบหมดเพราะมันน่าจะเยอะมากๆ ถ้าคำถามไหนมีคนถามเข้ามาเยอะเดี๋ยวเราจะมา edit โพสตอบคำถามให้ค่ะ ขอบคุณมากค่า
Ep.3 จะเขียนเมื่อมาถึงแล้วนะคะ ว่าจะต้องไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ เตียงนอน ตู้ต่างๆที่ไหน ฝากติดตามด้วยนะคะ 💚💚
ปล. ฝาก tiktok เราด้วยค่า ชอบเล่นมาก 55555 กะว่าไปถึงออสจะถ่ายพวกคอนเท้นหาบ้าน หางาน ซื้อของ บลาๆ
https://vt.tiktok.com/ZSdu6E3nu/
ฝากทุกคนไป follow ด้วยนะคะ 🥺💚

ใครยังไม่ได้อ่าน part 1 ตามได้ที่นี้นะคะ
https://www.facebook.com/groups/337049706949787/permalink/991280248193393/

ได้บ้านแล้วทำยังไงต่อ?
1. เอเจ้นจะส่งเมลมาถามเราว่าคุณ confirm ที่จะเข้าอยู่ในวันที่นี้มั้ยๆ ระยะเวลาเท่านี้ๆ ถ้าเราจะเอา ก็เมลตอบกลับเจ้นว่า confirm
2. เอเจ้นจะส่งรายละเอียดห้องพัก สัญญามาให้เราดู รวมทั้งคำนวณค่าใช้จ่ายว่าเราต้องจ่ายเท่าไหร่ และให้เราจ่ายค่า bond และค่าเช่าล่วงหน้า 1 เดือน (บางที่เก็บแค่ bond ก่อนแล้วพอถึงห้องค่อยโอนค่าห้องล่วงหน้าทีหลัง) !! ระวัง !! บัญชีที่จะโอนเงินควรจะเป็นบัญชีของเอเจ้นนะคะ ดำเนินการผ่านเอเจ้นสบายใจสุด
3. โอนเงินเสร็จ พอวันที่เราจะเข้าพักหรือไปถึง ก็ไปเอากุญแจที่เอเจ้น หลังจากนั้นเราต้องไปติดต่อเรื่องน้ำ ไฟ แก๊ส อินเทอร์เน็ตเอง (ข้อนี้เราไม่ค่อยมั่นใจ เพราะเราก็ยังไม่ได้เดินทาง เดี๋ยวถึงแล้วจะมารีวิว ep.3 อีกรอบ)

ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
1. ค่า inspection ราคาประมาณ 25$-40$ ต่อครั้ง inspect ครั้งหนึ่งก็ 15 นาที ไม่เกินนี้ ราคา vary นะคะ แพงไม่ได้แปลว่าดี ถูกก็ไม่ได้แปลว่าไม่ดี แล้วแต่สะดวกเลยค่า
2. ค่า bond & deposit เดือนแรก แล้วแต่ว่าห้องที่เราเช่าราคาเท่าไหร่ สามารถคำนวณได้จากเว็บ https://www.consumer.vic.gov.au/.../rent/rent-calculator
- ราคาที่ extra เพิ่มเข้ามา เพราะว่าอย่าลืมนะคะว่าบางเดือนก็ไม่ได้มีแค่ 4 wks เว็บมันเลยคำนวณไว้ให้แล้ว ตอนแรกเราก็งงๆเหมือนกันว่าทำไมมันโดนชาจเพิ่ม
3. ค่าเฟอนิเจอร์แรกเข้า เพราะห้องส่วนใหญ่ตอนนี้ไม่มีเฟอ เตียง โต๊ะ ตู้เย็น เก้าอี้ บลาๆ ต้องซื้อเองหมด เราตัดสินใจที่จะซื้อเฟอเองเพราะว่าเราได้วีซ่ามา 3 ปี ค่ะ เป็นความโรคจิตส่วนตัวด้วยที่อยากแต่งห้องเอง 😭 ค่าใช้จ่ายมันอาจจะบานปลายแบบสุดๆในจุดนี้
ตอนนี้ห้องพักส่วนใหญ่ต้องการที่จะทำสัญญา 1 ปีขึ้นไปค่ะ ใครถือวีซ่า 6 เดือนแล้วจะไซน์บ้านเอง จุดนี้เราว่าเสียเปรียบกับคู่แข่งสุดๆ
ก่อนที่จะได้ห้องนี้มา เราใช้บริการ inspection กับพี่มุก Blue Pearl ใจดีมากกก สวย น่ารัก บริการดี ช่วยเหลือตอบคำถามเราตลอด ห้องที่ได้มานี้พี่มุกไม่ได้ไป inspect ให้ แต่ก็ยังช่วยเรา ขนาดเอเจ้นบ้านไม่ยอมตอบ พี่มุกยัง text ไปตามให้ ใครจะใช้บริการพี่มุก แนะนำมากๆค่า แต่ห้องที่ให้ไป inspect คือชวดค่ะ 😭😭 เสียดายม้ากก ส่วนห้องที่ได้มานี้ลอง apply ไปเล่นๆก่อนนอน ตื่นเช้ามาได้เลย แบบงงเวอร์
เทคนิกที่เราใช้ให้ได้บ้าน (ส่วนตั๊ววส่วนตัวแค่ของเรานะคะ ถ้าไม่ถูกใจใครอย่าด่าเราน้า เราอ่อนไหว 😢)

พูดตรงๆ แบบไม่โลกสวยเลยนะคะ ตัวแปรหลักในการได้บ้านตอนนี้คือ เงิน ค่ะ
1. เรายื่นหลักฐานการเงินที่มีการแสดงให้เห็นว่าเงินเราเข้าออก มีการใช้จ่ายอยู่ตลอดเวลา
2. ตอนเขียน cover letter เราพยายามเขียนให้เค้ารู้ถึง life style ของเราว่า เราเป็นคนมีเงินนะ (ความจริงไม่ค่อยมีหรอกค่ะ เดือนชนเดือน 🤣) เราชอบเที่ยว ออกไปทำกิจกรรม หาเวลาว่างให้ตัวเองตลอด ตรงนี้มันจะแสดงถึงการใช้เงินของเรานะคะ เพื่อให้เค้ารู้ว่า เรามีเงินมากพอที่จะจ่ายเค้าได้ในทุกๆเดือน
- เราแปะ Instagram ของเราและแฟน เหมือนเชิญชวนให้เค้าเข้ามาดูว่า เออ มาดูได้นะ เราชอบเที่ยวกันจริงๆ ไปทะเล ดำน้ำ เดินป่า ตั้งแค้ม ไม่ได้พูดลอยๆ
ห้องที่เราได้มาคือ 1 bedroom, 1 bathroom, living room & kitchen ในราคา 450$ ต่อ week
ตอนไป inspect ครั้งแรก พี่มุกแนะนำว่าถ้าอยากได้ห้องจริงๆ ให้ extra money ไปอีกสัก 20-30$ ต่ออาทิตย์ เราเลยลองเพิ่มไป 20$ เราก็ไม่ได้มาค่ะ

เพราะฉะนั้น การเพิ่มเงินก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะได้ห้องเสมอไปนะคะ เพราะห้องที่ได้มาก็ไม่ได้ add เพิ่มค่ะ (คิดว่าน้อยไป อาจจะต้อง 50$ แต่เราว่ามันแพงเกินไปสำหรับห้องเปล่าค่ะ)
ใครอยาก sign ห้องเอง ให้เตรียมเอกสารทั้งหมดให้พร้อม ที่สำคัญคือเงินค่ะ เพราะต้องเร็วแข่งกับเวลาด้วย ถ้าเราชักช้า มัวแต่ตัดสินใจ ห้องก็จะหลุดไปเป็นของคนอื่นทันที
ใครมีคำถามอะไรถามเข้ามาได้นะคะ เราอาจจะไม่ได่ตอบหมดเพราะมันน่าจะเยอะมากๆ ถ้าคำถามไหนมีคนถามเข้ามาเยอะเดี๋ยวเราจะมา edit โพสตอบคำถามให้ค่ะ ขอบคุณมากค่า
Ep.3 จะเขียนเมื่อมาถึงแล้วนะคะ ว่าจะต้องไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ เตียงนอน ตู้ต่างๆที่ไหน ฝากติดตามด้วยนะคะ 💚💚
ปล. ฝาก tiktok เราด้วยค่า ชอบเล่นมาก 55555 กะว่าไปถึงออสจะถ่ายพวกคอนเท้นหาบ้าน หางาน ซื้อของ บลาๆ
https://vt.tiktok.com/ZSdu6E3nu/
ฝากทุกคนไป follow ด้วยนะคะ 🥺💚

